ถ้าพูดถึงกันสาด บอกเลยว่าเป็นสิ่งที่เราเห็นกันได้แทบทุกบ้าน ทุกร้านค้า ไม่ว่าจะใช้กันแดด กันฝน หรือเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้ดูโปร่งขึ้น แต่พอจะเลือกติดกันสาดจริงๆ ดันมีตัวเลือกเยอะจนตัดสินใจไม่ถูก ระหว่างระหว่างกันสาดผ้าใบ กันสาดไวนิล กันสาดเมทัลชีท แบบไหนที่ตอบโจทย์ที่สุด?
บางคนอาจชอบ “กันสาดผ้าใบ” เพราะติดตั้งง่าย ปรับลุคบ้านให้ดูชิลๆ ได้ แต่ก็มีคนบอกว่าทนทานน้อยกว่าแบบอื่น ส่วน “กันสาดไวนิล” ก็มาแรง เพราะทนแดด กันฝนดี และให้ฟีลโมเดิร์น ขณะที่ “กันสาดเมทัลชีท” ก็ครองใจสายแข็ง เพราะอึด ถึก ทน แต่อาจมีข้อเสียเรื่องเสียงดังเวลาฝนตก และถ้าคุณอ่านมาถึงตรงนี้แล้วยังลังเลใจ ไม่รู้จะเลือกแบบไหนดี บทความนี้จะพาไปเปรียบเทียบราคา คุณภาพ และความเหมาะสมของแต่ละแบบ แบบตรงไปตรงมา อ่านจบสามารถเลือกกันสาดได้ตรงตามความต้องการอย่างแน่นอน
เจาะลึกแต่ละประเภท : กันสาดผ้าใบ กันสาดไวนิล กันสาดเมทัลชีท
กันสาดแต่ละแบบมีคาแรกเตอร์ชัดเจน ต่างคนก็ต่างมีเหตุผลในการเลือกใช้แบบที่ชอบ แต่คำถามคือกันสาดแบบไหนตอบโจทย์บ้านคุณมากที่สุด? มาดูกันว่ากันสาดผ้าใบ กันสาดไวนิล และกันสาดเมทัลชีท มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง แล้วอันไหนคุ้มค่ากับเงินที่ต้องจ่าย
- กันสาดผ้าใบ
กันสาดผ้าใบ เป็นตัวเลือกที่เห็นกันบ่อยตามบ้าน ร้านกาแฟ คาเฟ่ต่างๆ ข้อดีหลักๆ คือราคาถูก ติดตั้งง่าย และมีสีสันให้เลือกเยอะ แถมบางรุ่นยังเป็นแบบพับเก็บได้ เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน
ข้อดี
- สามารถเลือกรูปแบบโครงสร้างได้หลายรูปแบบ
- มีผ้าหลายชนิด และสีให้เลือกเยอะ
- สามารถเขียนโลโก้หรือข้อความลงบนกันสาดได้
- เสียงเงียบ ไม่ก่อความรำคาญเวลาฝนตก
- ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว
- อายุการใช้งานค่อนข้างสั้นกว่าประเภทอื่น
- ไม่ทนแดดและฝนเท่ากันสาดไวนิลหรือเมทัลชีท
- ถ้าใช้งานไม่ถูกวิธีอาจทำให้เกิดเชื้อราได้
- ผ้าบางประเภทหากโดนแดดจัดอาจซีดเร็ว
- กันสาดไวนิล
ถ้าคุณต้องการกันสาดที่ให้ฟีลโมเดิร์นขึ้นมาอีกขั้น ขอแนะนำกันสาดไวนิลเลย วัสดุไวนิลเป็นพลาสติกคุณภาพสูง กันแดด กันฝนได้ดี แถมดูแลรักษาง่ายกว่าแบบผ้าใบ จุดเด่นคือไม่มีเสียงดังเวลาฝนตกและช่วยลดความร้อนสะสมในบ้านได้
ข้อดี- กันแดด กันฝนได้ดี และไม่มีปัญหาสีซีดเร็ว
- เสียงเงียบ ไม่ก่อความรำคาญเวลาฝนตก
- ดีไซน์ดูโมเดิร์นกว่าแบบผ้าใบ
- ราคาสูงกว่ากันสาดผ้าใบพอสมควร
- น้ำหนักเยอะ อาจต้องเสริมโครงสร้างบ้านให้รับน้ำหนักได้
- สีและลวดลายไม่เยอะเท่าผ้าใบ
- กันสาดเมทัลชีท
กันสาดเมทัลชีท ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรง ทนแดด ทนฝน ไม่ต้องกังวลเรื่องปลวกหรือเชื้อรา แต่ที่หลายคนกังวลคือเสียงดังเวลาฝนตก เพราะถ้าไม่ติดฉนวนกันเสียง ก็อาจจะส่งเสียงดังได้ แต่ถ้าเสริมฉนวนดีๆ ก็ช่วยลดเสียงไปได้เยอะ
ข้อดี- แข็งแรง ทนทาน ไม่ต้องดูแลเยอะ
- กันแดดและฝนได้ดีที่สุดในสามแบบ
- มีสีเมทัลลิกและเคลือบสีให้เลือก
- เสียงดังเวลาฝนตก (แต่แก้ไขได้ด้วยฉนวนกันเสียง)
- ดีไซน์ดูแข็งไปสำหรับบางบ้าน
- อาจทำให้บ้านร้อนขึ้นถ้าไม่มีฉนวนกันความร้อน
เทียบราคาและคุณภาพแบบตรงไปตรงมา
เลือกกันสาดทั้งที ต้องดูให้ครบทุกด้าน ไม่ใช่แค่เรื่องราคา แต่รวมถึงความทนทาน ดีไซน์ และงานติดตั้งด้วย เพราะหากเลือกผิด อาจต้องเสียเงินซ้ำซ้อนภายหลัง มาดูกันว่าระหว่างกันสาดผ้าใบ กันสาดไวนิล และกันสาดเมทัลชีท แบบไหนคุ้มสุดในแต่ละด้าน
- ความทนทาน
- กันสาดเมทัลชีทเป็นตัวเลือกที่ทนทานที่สุดในสามประเภท เพราะรับมือได้ทั้งแดดและฝน อายุการใช้งานยาวนาน ไม่เกิดเชื้อรา ไม่ซีดเร็ว และไม่เปื่อยยุ่ยง่ายเหมือนกันสาดประเภทอื่น อย่างไรก็ตาม หากไม่มีฉนวนกันร้อนอาจทำให้บริเวณใต้กันสาดร้อนอบอ้าวขึ้น
- กันสาดไวนิลก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีในเรื่องความทนทาน สามารถกันแดดและกันฝนได้ดี โครงสร้างแข็งแรงกว่าแบบผ้าใบ และไม่เปราะหรือเสียรูปง่ายเมื่อเจออากาศร้อนจัด แต่ต้องมั่นใจว่าติดตั้งดี เพราะถ้าทำไม่ถูกต้อง อาจเกิดปัญหาแผ่นไวนิลโก่งตัวได้
- กันสาดผ้าใบกันแดดกันฝนได้ระดับหนึ่ง แต่ในระยะยาวอาจเจอปัญหาผ้าขาด สีซีด หรือขึ้นรา หากใช้งานในพื้นที่ที่ฝนตกหนักหรือแดดจัดตลอดเวลา อายุการใช้งานอาจสั้นกว่ากันสาดอีกสองประเภท เหมาะกับการใช้งานระยะสั้นหรือชั่วคราวมากกว่าติดตั้งถาวร
- ราคา
- กันสาดผ้าใบเป็นตัวเลือกที่ถูกที่สุด ราคาต่อพื้นที่เริ่มต้นที่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันต่อตารางเมตร ขึ้นอยู่กับคุณภาพของวัสดุและโครงสร้าง เหมาะกับคนที่ต้องการกันสาดราคาประหยัดและติดตั้งง่าย
- กันสาดไวนิลมีราคาสูงกว่าผ้าใบพอสมควร โดยเริ่มต้นที่หลักพันต่อตารางเมตร แต่ให้ความคุ้มค่ามากกว่าในแง่ของความทนทานและอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
- กันสาดเมทัลชีทเป็นตัวเลือกที่ราคาสูงสุด โดยเฉพาะถ้าเลือกติดฉนวนกันร้อนเพิ่ม ราคาจะสูงขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับอายุการใช้งานที่ยาวนานและการดูแลรักษาที่น้อยกว่า อาจถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว
- ดีไซน์และความเข้ากับบ้าน
- กันสาดผ้าใบมีสีสันและลวดลายให้เลือกเยอะ สามารถปรับให้เข้ากับสไตล์ของบ้านหรือร้านค้าได้ง่าย แต่ถ้าเลือกสีหรือดีไซน์ผิด อาจทำให้บ้านดูไม่แพงหรือดูเก่าเร็วขึ้น
- กันสาดไวนิลให้ลุคโมเดิร์นและเรียบหรู มีโทนสีที่เข้ากับบ้านแนว contemporary หรือ minimal ได้ดี แม้จะไม่มีลวดลายหรือสีสันจัดจ้านแบบผ้าใบ แต่ให้ความรู้สึกพรีเมียมกว่า
- กันสาดเมทัลชีทเหมาะกับบ้านที่ต้องการลุคแข็งแรง ดิบเท่ หรือสไตล์ลอฟต์ อย่างไรก็ตาม หากเลือกสีผิดหรือใช้กับบ้านที่ไม่เข้ากับดีไซน์ อาจทำให้ดูแข็งทื่อเหมือนโรงงานมากกว่าบ้านพักอาศัย
- งานติดตั้งและดูแลรักษา
- กันสาดผ้าใบเป็นตัวเลือกที่ติดตั้งง่ายที่สุด สามารถใช้โครงเหล็กเบาๆ ก็ติดตั้งได้ แต่ต้องดูแลบ่อย เพราะเสี่ยงต่อการขาด ซีด หรือขึ้นรา
- กันสาดไวนิลมีความซับซ้อนขึ้นมานิดหน่อย ต้องใช้โครงสร้างรองรับที่ดี แต่เมื่อติดตั้งแล้วแทบไม่ต้องดูแลอะไรมาก ทำความสะอาดง่าย และไม่เกิดเชื้อราเหมือนแบบผ้าใบ
- กันสาดเมทัลชีทต้องใช้ช่างมืออาชีพติดตั้ง เพราะต้องคำนึงถึงโครงสร้างที่รองรับน้ำหนัก และการป้องกันปัญหาการรั่วซึม แต่เมื่อติดตั้งเสร็จแล้ว การดูแลรักษาง่ายมาก ไม่ต้องทำความสะอาดบ่อย และทนต่อสภาพอากาศได้ดีที่สุด
ไม่ว่าคุณจะเน้นงบประมาณ ความยืดหยุ่น (กันสาดผ้าใบ), ความสวยทนทาน ดูแลง่าย (กันสาดไวนิล), หรือความแข็งแรงทนทานขั้นสุด (กันสาดเมทัลชีท) เรามีครบ!
พลังบ้านช่าง 999 จำกัด: ผู้เชี่ยวชาญด้านกันสาดครบวงจร
- ปรึกษาฟรี: ทีมงานประสบการณ์กว่า 10 ปี พร้อมให้คำแนะนำ ออกแบบ ติดตั้ง
- ทุกประเภท: กันสาดผ้าใบ กันสาดไวนิล กันสาดเมทัลชีท และอีกมากมาย
- ดูหน้างานฟรี: ประเมินพื้นที่จริง เพื่อกันสาดที่ลงตัวกับบ้านคุณ
- คุณภาพเยี่ยม: สร้างสรรค์กันสาดที่แข็งแรง ทนทาน สวยงาม
สนใจ กันสาดผ้าใบ กันสาดไวนิล กันสาดเมทัลชีท ติดต่อ "พลังบ้านช่าง 999"
โทร : 02-746-5500
Mobile : 063-390-0330, 085-151-5200
Line OA : https://page.line.me/wxx9802g?openQrModal=true
Facebook : กันสาด ผ้าใบ เต็นท์ จานดาวเทียม กล้องวงจรปิด
อีเมล : bcpower999@gmail.com
