ติดมาใหม่ๆ ก็ดูสวย เท่ ล้ำ รับกับตัวบ้าน แต่พอใช้งานไปสักพัก เจอทั้งแดด ทั้งฝน แถมฝุ่นเกาะเพียบ บางคนเจอคราบดำขึ้นเป็นลาย บางคนผ้าหย่อนจนเสียทรง หรือหนักสุดถึงขั้นพังไปเลย ถ้าคุณกำลังเจอปัญหานี้อยู่ บอกเลยว่าไม่ต้องตกใจ เพราะกันสาดผ้าใบก็ต้องการการดูแลเหมือนของใช้อื่นๆ ในบ้าน
แล้วเราจะดูแลยังไงให้กันสาดผ้าใบอยู่กับเราได้นาน ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย วันนี้เรามีเคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญมาแชร์ให้แบบเข้าใจง่าย ทำตามได้จริง แถมไม่ต้องเปลืองงบ มาดูกันเลย
ทำไมกันสาดผ้าใบต้องการการดูแลอย่างสม่ำเสมอ
กันสาดผ้าใบคือไอเทมกันแดดกันฝนที่ช่วยให้ชีวิตเราสะดวกขึ้น จะนั่งเล่นหน้าบ้านก็ไม่ต้องกลัวร้อน จะเปิดประตูระบายอากาศก็ไม่ต้องห่วงฝนสาด แถมยังช่วยยืดอายุเฟอร์นิเจอร์นอกบ้านไม่ให้ซีดจางไวอีกด้วย แต่ถ้าปล่อยให้กันสาดทำงานหนักโดยไม่มีการดูแลเลย อาจเกิดปัญหาชวนปวดหัวตามมาได้ เช่น
- คราบดำ ฝุ่นเพียบ เชื้อราขึ้น เจอฝน เจอฝุ่นบ่อยๆ กันสาดผ้าใบก็สะสมคราบสิ่งสกปรก ถ้าไม่รีบจัดการ เชื้อราจะมาเยือนแน่นอน
- ผ้าใบหย่อน เสียทรง ดูโทรมก่อนเวลา เพราะถ้าโดนลมแรง ฝนตกหนักบ่อยๆ แต่ไม่มีการปรับเช็กสภาพเลย กันสาดอาจเริ่มหย่อนหรือขาดเป็นรูได้
- ไม่ใช่แค่ตัวผ้าใบที่ต้องดูแล แต่โครงสร้างเหล็กก็ต้องเช็กด้วย ถ้าปล่อยให้โดนฝนสะสมโดยไม่มีการเคลือบกันสนิมก็อาจผุพังเร็วกว่าที่คิด
จะดีกว่าไหม ถ้าดูแลกันสาดผ้าใบตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่ต้องรอให้พังแล้วเสียเงินเปลี่ยนใหม่ เดี๋ยวไปดูเคล็ดลับการดูแลแบบง่ายๆ ที่จะช่วยให้กันสาดของคุณอยู่กับบ้านไปนานๆ กันเลย
วิธีดูแลกันสาดผ้าใบให้ทนแดด ทนฝน ใช้ได้นานขึ้น
กันสาดผ้าใบต้องเจอกับแดด ฝน และฝุ่นละอองตลอดทั้งปี ถ้าไม่ดูแลให้ดีอาจเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควรจะเป็น แต่ไม่ต้องห่วง เพราะการดูแลกันสาดให้ใช้งานได้นานนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด แค่รู้วิธีที่ถูกต้องก็ช่วยให้กันสาดผ้าใบอยู่กับบ้านไปได้อีกหลายปี มาดูกันว่าต้องทำยังไงบ้าง
- การทำความสะอาดที่ถูกต้อง
การล้างกันสาดผ้าใบไม่ได้หมายความว่าต้องใช้น้ำยาสารพัดชนิดเสมอไป จริงๆ แล้วแค่ใช้น้ำเปล่าฉีดไล่ฝุ่นออกก็ช่วยลดคราบสะสมได้เยอะ แต่ถ้าเจอคราบหนักๆ อย่างคราบฝุ่นฝังแน่นหรือคราบสกปรกที่เจ้านกฝากไว้ แนะนำให้ใช้น้ำสบู่อ่อนๆ หรือ น้ำยาทำความสะอาดผ้าใบโดยเฉพาะ ห้ามใช้น้ำยาที่มีสารกัดกร่อนแรงๆ อย่างน้ำยาฟอกขาวเด็ดขาด เพราะอาจทำให้สีซีดและเนื้อผ้าเสื่อมเร็ว
นอกจากนี้ สิ่งที่ห้ามทำกับกันสาดผ้าใบยังรวมถึงการใช้แปรงแข็งๆ ขัดแรงๆ ล้างแล้วปล่อยให้แห้งเองโดยไม่เช็ดน้ำออก เพราะน้ำที่ค้างอยู่ทำให้เกิดเชื้อราได้ รวมถึงการใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง เพราะแรงดันน้ำที่มากเกินไป อาจทำให้ผ้าใบขาดหรือเคลือบกันน้ำเสียหายได้ -
ป้องกันเชื้อราและคราบฝังแน่น
กันสาดผ้าใบที่โดนฝนเป็นประจำหรืออยู่ในมุมอับแดด มักเป็นจุดเสี่ยงของเชื้อราและตะไคร่น้ำ ถ้าสังเกตเห็นคราบดำๆ เขียวๆ อย่าปล่อยไว้ ให้ใช้น้ำผสมเบกกิ้งโซดาหรือน้ำส้มสายชูเจือจางฉีดบริเวณที่มีเชื้อรา ทิ้งไว้ 10-15 นาทีแล้วใช้ฟองน้ำเช็ดออก จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาดหากต้องการป้องกันกันสาดผ้าใบไม่ให้เกิดคราบสะสม ควรเช็ดกันสาดให้แห้งทุกครั้งหลังฝนตก เพื่อลดความชื้นที่เป็นตัวการของเชื้อรา ถ้าเป็นไปได้ หมั่นรูดเก็บกันสาด (สำหรับกันสาดพับเก็บได้) หรือปรับองศาให้ฝนไหลลงได้ง่าย และใช้สเปรย์เคลือบกันน้ำและกันเชื้อรา เพื่อช่วยลดการเกาะตัวของคราบต่างๆ
- จัดการโครงสร้างให้แข็งแรง ไม่เสียทรง
อย่าดูแลแค่ตัวผ้าใบ โครงสร้างเหล็กหรืออะลูมิเนียมก็สำคัญไม่แพ้กัน ลองเช็กดูว่ามีจุดไหนเป็นสนิมหรือเริ่มบิดเบี้ยวหรือไม่ ถ้ามีสนิมเกิดขึ้น
ให้ใช้กระดาษทรายขัดออกแล้วทาสีกันสนิมเคลือบไว้ เพื่อป้องกันการลุกลาม
- ถ้าผ้าใบเริ่มหย่อน ลองปรับตั้งใหม่ก่อนที่มันจะเสียรูปถาวร
- น็อตหรือข้อต่อที่เริ่มหลวม ให้ขันให้แน่นก่อนจะกลายเป็นปัญหาใหญ่
- ถ้าพบว่ากันสาดมีรอยขาดเล็กๆ ซ่อมแซมทันทีด้วยเทปกันน้ำหรือกาวสำหรับผ้าใบ ก่อนที่รอยจะขยายใหญ่
วิธีป้องกันความเสียหายก่อนจะสายเกินไป
กันสาดผ้าใบถ้าใช้แบบไม่ระวัง อาจเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควรจะเป็น หลายคนติดตั้งเสร็จแล้วก็ปล่อยเลยตามเลย ไม่ได้สังเกตเลยว่ามุมองศาถูกต้องไหม ใช้งานเกินขีดจำกัดหรือเปล่า สุดท้ายก็ต้องซ่อมกันบ่อยๆ หรือแย่กว่านั้น คือต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งชุด ถ้าไม่อยากให้กันสาดผ้าใบของคุณพังเร็ว ลองทำตามเคล็ดลับป้องกันความเสียหายเหล่านี้กันเลย
- ปรับองศาการติดตั้งให้เหมาะสม
ถ้าติดตั้งกันสาดไม่ถูกมุม น้ำฝนอาจขังจนทำให้ผ้าใบหย่อน หรือแย่กว่านั้นคือโครงรับน้ำหนักไม่ไหวแล้วพังลงมา ดังนั้น ควรติดตั้งกันสาดให้มีความลาดเอียงประมาณ 10-15 องศา เพื่อให้น้ำฝนไหลลงได้ดี ไม่ขังอยู่บนผ้าใบ อย่าติดตั้งแบบแนวราบ 100% เพราะน้ำจะขังและทำให้กันสาดเสียรูปเร็วขึ้น ถ้ากันสาดผ้าใบเป็นแบบพับเก็บได้ ก็อย่าลืมตรวจเช็กว่าระบบล็อกแน่นหนาดีหรือไม่ เพราะถ้าองศาผิด เวลาพับเก็บหรือกางออกอาจมีปัญหาได้ - หลีกเลี่ยงการใช้งานหนักเกินไป
กันสาดผ้าใบไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้รับน้ำหนักมากๆ ถ้าคุณชอบแขวนของไว้บนกันสาด หรือปล่อยให้น้ำฝนขังโดยไม่จัดการ อาจทำให้โครงพังหรือผ้าใบฉีกขาดก่อนเวลาอันควร ถ้าจำเป็นต้องแขวนของ ควรใช้ที่แขวนแบบติดกับผนังบ้านแทน พร้อมเช็กระบบระบายน้ำของกันสาดให้ดี ถ้าเป็นแบบพับเก็บได้ ควรพับเก็บในวันที่มีลมแรงหรือพายุเข้า - เลือกวัสดุเคลือบกันสาดที่ช่วยยืดอายุการใช้งาน
นอกจากตัวโครงและผ้าใบแล้ว วัสดุเคลือบกันสาดก็สำคัญมาก เพราะช่วยเพิ่มความทนทาน ป้องกันเชื้อรา และลดการซีดจางจากแดดแรงๆ โดยวัสดุที่ควรเลือก เช่น
- ผ้าใบเคลือบสารกัน UV ช่วยลดความร้อนและป้องกันสีซีดจากแสงแดด
- ผ้าใบกันน้ำแบบ PVC หรืออะคริลิก ทนฝน ไม่ดูดซับน้ำ ลดโอกาสเกิดเชื้อรา
- สเปรย์เคลือบกันน้ำและกันฝุ่น ใช้ฉีดเพิ่มความทนทานให้กันสาดผ้าใบ
กันสาดผ้าใบ หากขาดการดูแลที่ดีอาจเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควร แต่ด้วยวิธีง่ายๆ เหล่านี้ คุณสามารถยืดอายุการใช้งานได้: ทำความสะอาดอย่างถูกวิธี หลีกเลี่ยงการใช้งานหนักเกินไป และเลือกวัสดุที่มีคุณภาพเหมาะสม เพียงใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ กันสาดผ้าใบของคุณก็จะอยู่กับบ้านไปได้อีกนาน
หากคุณกำลังมองหากันสาดผ้าใบสวย ทนแดด ทนฝน และเหมาะกับพื้นที่บ้านหรือร้านค้าของคุณ บริษัท พลังบ้านช่าง 999 จำกัด มีบริการครบจบทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นกันสาดผ้าใบ เมทัลชีท โพลีคาร์บอเนต ไวนิล หรือเต็นท์ผ้าใบ เรามีทีมช่างมืออาชีพประสบการณ์กว่า 10 ปี พร้อมบริการสำรวจหน้างานฟรี เพื่อให้คุณได้กันสาดที่ลงตัวและตอบโจทย์ที่สุด
สนใจสอบถาม กันสาดผ้าใบ
โทร : 02-746-5500
Mobile : 063-390-0330, 085-151-5200
Line OA : https://page.line.me/wxx9802g?openQrModal=true
Facebook : กันสาด ผ้าใบ เต็นท์ จานดาวเทียม กล้องวงจรปิด
อีเมล : bcpower999@gmail.com